วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โรคหอบหืด

                                                         
โรคหอบหืด

  


โรคหอบหืด

Asthma

โรคหอบหืดเป็นภาวะที่มีผลต่อทางเดินหายใจทำให้หายใจลำบาก คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคหอบหืดที่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมสามารถใช้ชีวิตตามปกติ หากปล่อยไว้ไม่รักษาสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อทางเดินหายใจได้  มีจำนวนน้อยรายที่การกำเริบอย่างรุนแรงทำให้ถึงแก่ชีวิต

เกี่ยวกับภาวะโรค 

พบมากในวัยเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกได้บ้างในวัยผู้ใหญ่ที่เริ่มมีอาการโรคหอบหืดที่เกิดจากการระคายเคืองของระบบทางเดินหายใจจากสภาวะแวดล้อมในที่ทำงาน หรือพัฒนาจากภายหลังการติดเชื้อไวรัส โรคหอบหืดมีผลต่อ ทางเดินหายใจโดยจะมีอาการระคายเคืองและอักเสบ เป็นผลทำให้ทางเดินหายใจแคบลง มีเมือกออกมากทำให้อากาศไหลเข้าและออกจากปอดยากขึ้น

อาการ 

อาการของโรคหอบหืดขึ้นอยู่กับความรุนแรงเกิดขึ้นเช่น การไอ หอบ หายใจถี่  แน่นหน้าอก อาการเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะต่างกันไปแต่ละบุคคล อาจจะมีอาการไม่เหมือนกัน และอาจเป็นๆ หายๆ อาการมักจะแย่ลงในเวลากลางคืนหรือในตอนเช้า

สาเหตุ 
โรคหอบหืดมักจะไม่ชัดเจน บ่อยครั้งมีตัวกระตุ้นที่ทำให้อาการกำเริบได้แก่ การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ สารก่อความระคายเคือง เช่นฝุ่น, ควันบุหรี่ และควัน สารเคมี อื่น ๆ ที่พบในที่ทำงาน อันนี้จะเรียกว่าโรคหอบหืดจากการทำงาน การแพ้เกสร ยา สัตว์ ไรฝุ่นบ้าน หรืออาหารบางชนิด การออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอากาศเย็นและแห้ง อารมณ์  หัวเราะหรือร้องไห้อย่างแรง กระตุ้นให้เกิดอาการได้ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ยาบางอย่างที่สามารถทำให้เกิดโรคหอบหืด ยาส่วนใหญ่มีความปลอดภัย แต่ถ้าคุณมีโรคหอบหืดระดับปานกลางถึงอย่างรุนแรง ไม่ควรใช้ยาแอสไพรินและไอบูโปรเฟน ยาพวกเบต้าบล็อกเกอร์ที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบอาจทำให้โรคหอบหืดแย่ลง

โรคหอบหืดพบมากในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง แต่วัยผู้ใหญ่ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีอาการหอบหืดมากกว่าผู้ชาย โรคหอบหืดอาจเป็นโรคทางพันธุกรรมได้ คุณแม่ที่สูบบุหรี่ในระหว่างตั้งครรภ์ลูกก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหอบหืด ถ้าเราสูบบุหรี่และมีลูกเล็กๆ เด็กเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหอบหืด ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักต่ำเกณฑ์ก็มีแนวโน้มที่เป็นโรคหอบหืดได้

การวินิจฉัยโรค 

แพทย์จะถามถึงปัจจัยที่คิดว่าอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการโรคหอบหืด อาจจะสั่งทำการทดสอบอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อวินิจฉัยโรค
•วัดอัตราการไหลสูงสุดของอากาศที่ถูกขับออกจากปอด เพื่อทดสอบวัดความเร็วของอากาศที่ถูกขับออกจากปอด
•การวัดสมรรถภาพปอด เพื่อทดสอบวัดความเร็วและปริมาณการไหลของอากาศ ซึ่งจะให้ข้อมูลละเอียดมากกว่าการวัดอัตราการไหลสูงสุด และแสดงให้เห็นสภาพการทำงานของปอด
•การทดสอบโรคภูมิแพ้ เพื่อทดสอบว่าแพ้สารอะไร
•การเอกซ์เรย์ทรวงอก มักจะไม่ใช้ในการวินิจฉัยโรคหอบหืด แต่อาจจะทำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มีรูปแบบอื่นใดของโรคปอด
ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี การวินิจฉัยอาจทำเพียงแค่ว่ามีการตอบสนองต่อการรักษาโรคหอบหืดดีเพียงไร

การรักษาโรคหอบหืด 

โรคหอบหืดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้  เป็นการรักษาตามอาการเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวัน แผนการรักษาของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไป การรักษาเป็นการประสมประสานระหว่างยากับอาการของโรคในทางที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละคน

ยาสูดพ่นแบบ inhalers 

มียาสูดพ่นพื้นฐาน 2 ประเภทใช้สำหรับโรคหอบหืดคือ: บรรเทาอาการ และป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ และรักษาอาการอักเสบของโรคหอบหืด ยาที่ใช้ในการรักษาถูกส่งตรงไปยังทางเดินหายใจ ในรูปของผงแห้งละอองยาเมื่อใช้คู่กับอุปกรณ์

ยาจะถูกสูดดมเข้าไปในทางเดินหายใจ คนไข้จะต้องใช้อุปกรณ์เป็นเพื่อให้มันทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ ควรสอบถามแพทย์สำหรับคำแนะนำและวิธีการใช้ยาและอุปกรณ์อย่างถูกต้อง ควรใช้ยาบรรเทาอาการเมื่ออาการของโรคหอบหืดกำเริบสามารถใช้ได้ทั้งแบบออกฤทธิ์สั้นหรือยาว แบบออกฤทธิ์สั้นช่วยในการผ่อนคลายและขยายทางเดินหายใจ มีตัวยา เช่น  salbutamol และ terbutaline  ซึ่งจะออกฤทธิ์เร็ว ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ยาบรรเทาอาการมากกว่า3 ครั้งต่อสัปดาห์  แสดงว่าโรคหอบหืดคุมไม่อยู่  แพทย์อาจจะต้องทบทวนอาการอีกครั้ง หากได้รับยาป้องกัน ควรใช้ทุกวัน แม้ว่าจะไม่ได้มีอาการเพื่อเป็นการป้องกันอาการกำเริบ แพทย์จะกำหนดยาสูดพ่นแบบป้องกัน ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้

•รู้สึกหายใจขัด มีอาการไอหรือแน่นหน้าอกมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์เมื่อทำกิจกรรมประจำวัน
•จำเป็นต้องใช้ยาสูดพ่นบรรเทาอาการ 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่า
•รู้สึกหายใจติดขัดเมื่อมีการติดเชื้อที่ปอดกหรืออยู่ในบรรยากาศที่เป็นควัน
•การนอนหลับถูกบกวนด้วยอาการแน่นหน้าอกหรือ ไอ
ยาพ่นป้องกันมักจะมีสเตียรอยด์เช่น beclometasone หรือ fluticasonem ซึ่งลดการอักเสบของทางเดินหายใจ อาจใช้เวลานานถึง 14 วัน กว่าที่ยาป้องกันเริ่มทำงาน แต่เมื่อมันเริ่มทำงานแล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาสูดพ่นบรรเทาอีกเลย
ยาบรรเทาที่ออกฤทธิ์ยาวสามารถนำมาใช้ร่วมหากอาการของโรคควบคุมไม่ได้แล้วด้วยยาสเตียรอยด์แบบป้องกัน การใช้ยาบรรเทาออกฤทธิ์สั้นเป็นครั้งคราว  ยาจะทำงานในลักษณะเดียวกับยาบรรเทาที่ออกฤทธิ์สั้น แต่ฤทธิ์ยาจะคงอยู่นานกว่า 12 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับยาบรรเทาที่ออกฤทธิ์ยาว เช่น Salmeterol หรือ formoterol บ่อยครั้งที่ยาเหล่านี้จะถูกประสมประสานกับสเตียรอยด์ ซึ่งหมายความว่าตัวยาทั้งสองจะถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในยาสูดพ่น

ยาสูดพ่นแบบ spacers 

เป็นยาสูดพ่นแบบขับเคลื่อนด้วยก๊าซ  คนไข้จะได้รับอุปกรณ์ช่วยพ่นยาซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้ใช้ยาสูดพ่นได้อย่างถูกต้อง และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเด็กหรือผู้ที่พบว่ามันยากที่จะใช้ยาสูดพ่น ในเด็กเล็กถึงสามขวบก็สามารถเรียนรู้การใช้ยาสูดพ่นด้วยอุปกรณ์ช่วยพ่นยานี้ อุปกรณ์ช่วยพ่นยาเป็นหลอดยาวซึ่งสวมลงบนยาสูดพ่น คนไข้หายใจเข้าและออกจากปากที่ปลายอีกด้านของท่อ ใช้ง่ายเพราะสามารถเปิดใช้งานเครื่องสูดพ่นยาแล้วสูดหายใจเข้าและออกได้ในเวลาเดียวกัน การใช้อุปกรณ์ช่วยพ่นยายังช่วยลดความเสี่ยงของการเจ็บคอจากการใช้ยาสูดพ่นสเตียรอยด์  และเมื่อใช้อย่างถูกต้องก็มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับเครื่องพ่นละอองยาในการรักษาโรคหอบหืดเฉียบพลัน

เครื่องพ่นละอองยา (nebulizer)

เครื่องพ่นละอองยาเป็นการทำให้ยาโรคหอบหืดเป็นละอองแล้วหายใจเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ  เป็นการช่วยส่งยาไปในจุดที่ต้องการ สิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนไข้มีโรคหอบหืดที่รุนแรงและจำเป็นต้องมีการรักษาฉุกเฉินในบ้านหรือโรงพยาบาล ถ้าใช้ spacer กับยาโรคหอบหืดมันอาจจะมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับเครื่องพ่นละอองยาสำหรับการรักษาโรคหอบหืดแทบทุกชนิด  หากเด็กมีโรคหอบหืดควรสอบกับแพทย์ว่าเครื่องพ่นละอองยาเหมาะที่จะใช้กับเด็กหรือไม่ หากใช้ nebuliser เป็นประจำควรหมั่นนำไปตรวจเช็คอยู่เสมอ เพื่อให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา
หากมีอาการหอบหืดรุนแรงแพทย์อาจสั่งยาสเตียรอยด์แบบเม็ด เช่น prednisolone และยาอื่นๆ อีกหลายอย่างทั้งเป็นเม็ดและยาสูดพ่น ถ้าการรักษาแบบทั่วไปไม่ได้ผล อาจสั่งยากลุ่ม montelukast หรือ zafirlukast ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษา

การปฏิบัติตัวของคนที่เป็นโรคหอบหืด 

ยาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษา  คนไข้ยังจะต้องจัดการกับสิ่งที่ทำให้โรคนี้กำเริบ  ควรบันทึกอะไรก็ตามที่กระตุ้นโรคหอบหืดให้แย่ลงอันนี้จะช่วยทำให้พบรูปแบบของโรคได้มากขึ้น  การวัดอัตราการไหลสูงสุดในการตรวจสอบการทำงานของปอดเป็นสิ่งมีประโยชน์  คนส่วนใหญ่ที่มีโรคหอบหืดสามารถใช้??ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น